ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 มิถุนายน 2564 นายสุชาย ไม้แก่นจันทร์ ปลัดอำเภอ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ประธานเปิดโครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ชุมชนตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี “ไทรโยค เมืองไม้ผล มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา” ครั้งที่ 2 โดยมี ผศ.ดร.พจนีย์ สุขชาวนา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ ณ วัดพุตะเคียน ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ดร.ปิยะพร พิทักษ์ตันสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การจัดโครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ชุมชนตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี “ไทรโยค เมืองไม้ผล มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา” ครั้งที่ 2 เนื่องจากได้รับผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานในปีที่ผ่านมาอย่างดี โดยอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยฯได้ลงมามีส่วนร่วมกับชุมชนในทุกมิติ อาทิการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรกรยุคใหม่ การจำหน่ายสินค้ารูปแบบการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) เพื่อเป็นอีกช่องทางในการกระจายผลผลิตในสถานการณ์โควิด–19 และกระแสการบริโภคที่เปลี่ยนรูปแบบไปคาดว่าจากกิจกรรมโครงการดังกล่าวจะสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเกษตรกร และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ยังคงเดินหน้าส่งเสริมความเข้มแข็งของกลุ่มชุมชนเพื่อเศรษฐกิจครัวเรือน จำเป็นต้องพัฒนาเป็นระบบการปลูกที่มีคุณภาพ การลดต้นทุนการผลิต การแปรรูป การสร้างตราสินค้า และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อื่นๆของชุมชน ซึ่งชุมชนท่าเสามีความพร้อมหรือต้นทุนทางทรัพยากรที่ดี มีช่องทางการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายได้หลากหลาย มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และสามารถการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเพิ่มมูลค่าและต่อยอดจากการปลูกของชุมชน ผ่านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ให้กับชุมชนฐานราก
ดร.ปิยะพร พิทักษ์ตันสกุล กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน “ไทรโยค เมืองไม้ผล มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา” ได้จำลองตลาดผลไม้จากชาวสวนในพื้นที่โดยตรง ยกทัพมาให้ประชาชนได้เที่ยวชมงานและเลือกซื้อสินค้ามากมาย ในราคาหน้าสวนโดยผู้เข้าร่วม และผู้จำหน่ายสินค้า ได้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดในการป้องกันการติดเชื่อไวรัส COVID – 19 มาตรการการณ์ที่ภาครัฐกำหนด.